“ปล่อยได้หมดทุกข์”
เมื่อละตัณหาได้
อุปาทานก็ไม่มี ดังจะยกอุทาหรณ์เทียบเคียงให้เห็น ดังเช่น
สามีภรรยาที่หย่าขาดจากกัน เมื่อเขายังไม่หย่ากัน สามีไปทำอะไรเข้า
ภรรยาก็เก็บเอามาเป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย หรือเมื่อฝ่ายภรรยา ไปทำอะไรเข้า
ฝ่ายสามีก็เก็บเอามา เป็นทุกข์เป็นร้อนด้วย
ถ้าเขาหย่าขาดกันแล้ว
มิไยที่ฝ่ายใดจะไป ก่อกรรมทำเข็ญขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งจะไม่มีทุกข์ไม่มีร้อนด้วยเลย
ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะเขาต่างหมดความยึดถือว่า เขาเป็นสามีภรรยากันแล้ว
นี่ฉันใดก็ฉันนั้น นี่จะเห็นชัด ในข้อว่าทุกข์เกิดจากอุปาทาน
อันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวดูดดึงเข้ามา
แต่ลำพังขันธ์
๕ ไม่ใช่ตัวทุกข์ ได้ในคำว่า ปญฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา รวมความก็ว่า
ปล่อยอุปาทานไม่ได้ เป็นทุกข์ ปล่อยได้ หมดทุกข์ ถอดกายทิพย์ออกเสียจากมนุษย์
กายมนุษย์ก็ไม่มีเรื่อง จะมีใครเป็นทุกข์
และในที่สุดจะต้องปล่อยอุปาทานให้หมดทั้งในกายทิพย์ กายรูปพรหมและอรูปพรหม
คงแต่ธรรมกายเด่นอยู่ ฯ
(กัณฑ์ที่ ๑: พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ
พระสังฆคุณ จากหนังสือมรดกธรรมของหลวงพ่อวัดปากน้ำ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
#พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) #พระผู้ปราบมาร #หลวงพ่อวัดปากน้ำ #หลวงปู่วัดปากน้ำ